รวมอาการสุนัขป่วย ที่เจ้าของต้องรู้
รวมอาการสุนัขป่วย ที่เจ้าของต้องรู้
- สุนัขมีอาการสำลักหรือหายใจลำบาก หากสุนัขมีอาการสำลักหลังกินอาหารหรือดื่มน้ำ แสดงว่ามีน้ำหรือเศษอาหารไหลเข้าไปในหลอดลมของสุนัข หากอาการรุนแรงอาจทำให้หลอดลมอุดตัน หรือทำให้หลอดลมและปอดอักเสบได้ เจ้าของอาจพิจารณาอาการร้ายแรงอื่น ๆ เพิ่มเติมอย่างอาการสุนัขหายใจลำบาก ติดขัด และเสียชีวิตได้ อาการสำลักหรือหายใจลำบากมักพบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก อย่างปอมเมอเรเนียน พุดเดิ้ล และยอร์คเชียร์เทอร์เรีย รวมถึงสุนัขที่มีลักษณะอ้วน เนื่องจากมีชั้นไขมันค่อนข้างหนาจนกดทับหลอดลมได้ง่าย รวมถึงสุนัขแก่ที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ อาจทำให้กระดูกอ่อนของหลอดลมไม่แข็งแรงหรือตีบแคบลงได้ ดังนั้นสุนัขมีอาการลักษณะดังกล่าวเจ้าของอาจปลอบให้สุนัขอยู่ในความสงบ ไม่ตื่นเต้น และจัดให้อยู่ในท่าที่ไม่กดทับบริเวณอกและท้องของสุนัข และรีบพาไปพบแพทย์ ซึ่งเจ้าของอาจเพิ่มความอุ่นใจด้วยการทำประกันสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติมได้
- เลือดไหลจากอวัยวะส่วนต่าง ๆ การที่มีเลือดไหลออกมาจากอวัยวะใด ๆ ก็ตามแสดงว่าเกิดความผิดปกติในร่างกายของสุนัขแม้ว่าปริมาณของเลือดที่ไหลออกมาจะไม่มากนักก็ตาม หรืออาการของสุนัขก็ไม่ได้ดูซึมตามปัญหาอาการที่เลือดไหลได้ ดังนี้
- จมูกหรือปาก เลือดที่ออกบริเวณนี้ส่วนมากมักเกิดในกรณีที่สุนัขได้รับอุบัติเหตุ หรือถูกกระแทกบริเวณใบหน้า หรืออาจมาจากสาเหตุอื่น เช่น มีเนื้องอกหรือแผลในปาก
- ไอแล้วมีเลือดปนออกมาด้วย
- อวัยวะเพศ อาจแสดงถึงปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบ ในสุนัขเพศเมียยังอาจเกิดมดลูกอักเสบ หรือมีเนื้องอกบริเวณอวัยวะเพศ
- ทวารหนักหรืออุจจาระ สาเหตุมักเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่นอุจจาระแข็งมากหรือมีเศษกระดูกในอุจจาระ จนบาดลำไส้และลำไส้อักเสบติดเชื้อ
หากพบเลือดไหลออกจากจมูก ควรปลอบให้สุนัขอยู่ในความสงบ และใช้ผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณสันจมูก และรีบพาส่งโรงพยาบาลสัตว์
ที่มาของรูปภาพ www.pixabay.com/th/photos/สุนัข-ลูกสุนัข-สัตว์เลี้ยง-หมาดำ-423398/
- ท้องเสีย การที่สุนัขถ่ายเป็นน้ำ ถ่ายบ่อยมากกว่า 1-2 ครั้งต่อวัน หรือถ่ายเหลวและมีมูกเลือดปน อาจเป็นอาการบ่งบอกว่าสุนัขเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อทางเดินอาหาร รวมถึงเกิดความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร อาการอาจรุนแรง หรือไม่ก็ขึ้นกับสาเหตุของอาการนั้น ๆ เจ้าของควรรีบพาสุนัขไปรักษากับแพทย์โดยทันที เพราะหากอาการเรื้อรังหรือมีอาการต่อเนื่องหลายวัน สุนัขอาจมีอาการหนักขึ้นหรืออาจทำให้สุนัขมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรงได้ เจ้าของควรพาสุนัขไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ตามสิทธิ์ของประกันสัตว์เลี้ยงที่ได้ทำไว้ทันที เพราะยารักษาอาการท้องเสียของคนและสัตว์นั้นแตกต่างกัน
- ตัวร้อน ไม่แต่เฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่มีโอกาสเป็นไข้ตัวร้อน แต่สุนัขก็สามารถเป็นไข้ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาการไข้ในสุนัขสามารถสังเกตโดยจับบริเวณใบหูว่าร้อนผิดปกติหรือไม่ และมักมีสาเหตุ ดังนี้
- เกิดอาการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส ไม่ว่าจะเป็นที่ฟัน หู หรือระบบทางเดินปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะภายในอย่างไตและปอด
- การติดเชื้อเมื่อได้รับบาดแผล อย่างแผลถูกกัด หรือแผลจากรอยขีดข่วน
- ได้รับสารพิษ เช่น พืชที่เป็นพิษ ยาบางชนิด หรืออาหารของคนที่เป็นพิษต่อสุนัข
- เกิดอาการฮีสโตรท
การดูแลเมื่อสุนัขตัวร้อน ช่วยลดอุณหภูมิให้สุนัขด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นเช็ดตัวให้สุนัข โดยเฉพาะบริเวณใบหูและเท้า หรือใช้พัดลมเป่าที่ตัว และพยายามให้สุนัขดื่มน้ำทีละน้อย ๆ บ่อย ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ หรือพาสุนัขไปใช้สิทธิ์ประกันสัตว์เลี้ยงที่โรงพยาบาล
- อาการชัก เป็นอาการป่วยที่ค่อนข้างร้ายแรงในสุนัข ตัวสุนัขจะเหยียดเกร็งตัว ขากระตุก น้ำลายไหล ตากระตุกหรือกลอกตาจนเห็นแต่ตาขาว กล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก ปากกระตุกไม่หยุด ปัสสาวะหรืออุจจาระไหลแบบควบคุมไม่ได้ หากพบอาการชักในสุนัขนอกจากเจ้าของจะรีบพาไปรักษาตามประกันสัตว์เลี้ยงที่ได้ทำเอาไว้ยังควรถ่ายคลิปวีดีโอลักษณะอาการเอาไว้ เพื่อให้สัตวแพทย์ใช้วินิจฉัยอาการได้ถูกต้องและรวดเร็วมากขึ้น
ที่มาของรูปภาพ www.pixabay.com/th/photos/สุนัข-นักรบกษัตริย์ชาร์ลส์สแปเนียล-1606600/